โลกทุกใบล้วนพังทลาย Every World Collapses
หนุ่มมือเขียนบทภาพยนตร์ที่กำลังจะแต่งงานกับดาราสาวดาวรุ่ง และอดีตแฟนสาวกับความลับปริศนาที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตทั้งสามคนไปตลอดกาล... 1 ใน 6 Shortlist โครงการ Writerzeed ครั้งที่ 4 นวนิยายขนาดสั้น 2566
ผู้เข้าชมรวม
82
ผู้เข้าชมเดือนนี้
12
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
นี่อาจจะไม่ใช่นวนิยายขนาดสั้นประโลมโลกประเภทรักสามเส้าแบบที่เคยได้หยิบอ่านจากงานจำแนกพาฝันทั่วไป
บางความในนวนิยายของประพันธกรอื่นๆ ที่มักเล่นแร่แปรธาตุอยู่กับวังวนของชายหนึ่ง หญิงสอง หรือไม่ก็เป็นผู้หญิงสองคนที่ต้องเข้ามาพัวพันกับผู้ชายเพียงหนึ่งคน จะโดยสมัครใจหรือไม่ก็ตามที
บางความคิดผุดขึ้นในชั่วแล่น ถ้าเรื่องมันเกิดดำเนินไปจนกระทั่งว่ามีผู้หญิงคนที่สามปรากฏตัวขึ้นมาบ้างละ นั่นสิ ความรักที่ผ่านเข้ามาถึงสามครั้งของคนคนหนึ่ง ต่างมีบาดแผลที่ต่างเป็นฝ่ายได้เยียวยากันและ หน้าตามันจะออกมาเป็นเช่นไรกัน ด้วยข้อผูกมัดที่ไม่อาจปฏิเสธได้ภายใต้โลกที่พังทลายลงจนสิ้นแล้วของพวกเขา คนหนึ่งเป็นอดีต คนหนึ่งเป็นปัจจุบัน และอีกคนเป็นอนาคต
โลกชีวิตคนก็เหมือนโรงละคร เมื่อได้กำหนดเปิดม่านการแสดงแล้ว ก็ต้องเล่นไปตามครรลอง ถึงแม้ว่าวิญญาณและลมชีวิตที่ยังคงเหลือแทบจะสิ้นไร้ทั้งความหวังและความฝัน มีบางความในบางช่วงที่ฉุกคิดขึ้นมาว่าอยากจะตายไปให้เสียพ้นๆ ด้วยเพราะว่า โลกใบนี้มันช่างโหดร้ายเอากับพวกเขาทั้งสามเสียเหลือเกิน
ภาพฉายลงมาที่ชีวิตที่รุ่งโรจน์ของเมญาณี นางเอกป้ายแดงที่กำลังจะโด่งดังเป็นพรุจากการหมายมั่นปั้นมือของวรุณ มือเขียนบทภาพยนตร์ที่กวาดรางวัลสุพรรณหงส์มาแล้วหลายครั้งหลายครา อดีตรักลมหวนที่วูบผ่านมาเพียงชั่วข้ามชั่วคืนของปันวรรษา ที่แอบกระซิบบอกกับผู้เขียนว่าหล่อนกับวรุณไม่ใช่เป็นเพียงแค่ถ่านไฟเก่าธรรมดา แต่ยังเคยได้หมั้นหมายกันเอาไว้ด้วยคำสัญญาบนเกาะเล็กๆ กลางทะเลใต้ รักแรกนั้นลืมยากเสมอ วรุณถึงแก่ยอมรับกับผู้เขียนในคืนหนึ่งหลังจากที่สูญเสียหล่อนไปเช่นกัน ในขณะที่เขากำลังจะแต่งงานกับเมญาณี สมัครใจที่จะใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน ทว่า สิ่งไม่คาดฝันที่ลิขิตให้พวกเขาทั้งหมดมีอันต้องจากเป็นและจากตายไปชั่วนิจนิรันดร์
ต้นฉบับส่งเข้าประกวด ด้วยความหนาขนาด 73 หน้ากระดาษ A4 ถูกดัดแปลงและขยับขยายในส่วนที่เก็บงำและไม่ชัดเจนออกจนเกินหนึ่งร้อยหน้าในเวลาต่อมา และแม้กระทั่งในปัจจุบันขนาดนี้ ผู้เขียนยังแก้ไขขัดเกลาอยู่ทุกครั้งที่หยิบกลับขึ้นมาเปิดอ่านอย่างเคยตัว
เพราะดันเกิดได้ยินเสียงค่อนว่าเอาจากพวกเขาและตัวประกอบที่ผู้เขียนได้ถืออำนาจเผด็จการกระทำการอันหักหาญน้ำมิตรน้ำใจอย่างอยุติธรรม
ฟังมากๆ เข้า บางครั้งก็ต้องปิดหนี บางครั้งก็โอนอ่อนผ่อนปรน และก็มีบ้างที่ต้องถกเถียงเอาอย่างเป็นอารมณ์ โดยเฉพาะแม่เกศศิณี เพื่อนซี้ของทั้งปันวรรษาและวรุณ ที่คอยเล่นงามผู้เขียนจนแทบงอมพระรามอยู่เสียร่ำไป ถึงแม้ว่าหล่อนกับผู้เขียนจะเป็นเพื่อนซี้แหงแก๋กันมาตั้งแต่สมัยยังเรียนก็ตามที แม่คนนี้นี่แหละที่คอยเจ้ากี้เจ้าการให้ผู้เขียนรื้อขยายตรงนั้นตรงนี้ออกจนกระทั่งบานปลาย
เป็นธรรมดาอยู่ที่ผู้เขียนนำบางความในเรื่องนี้มาจากชีวิตจริง ทั้งได้ยิน ได้ฟังต่อมาเป็นทอด และอ่านเอาจากข่าวหน้าหนังสือพิมพ์บ้าง
อย่างที่พูดถึงอยู่มากในตอนที่ดาราสาวเคยพลัดตกจากเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ผู้เขียนก็นำส่วนประสบการณ์ในช่วงเวลานั้นมาประกอบเข้าไปในเรื่องด้วย อาทิเช่น การไม่เคารพความเป็นส่วนตัวของผู้ตาย มีคนนำภาพศพหลังจากมีการค้นพบออกมาเผยแพร่ผ่านทางโลกโซเชียล
ผู้เขียนได้ตั้งคำถามขึ้นมาเป็นหลักใหญ่ว่า สังคมป่วยหรือแท้ที่จริงเราทั้งหมดกำลังอาศัยอยู่บนโลกที่พังทลายหลังจากการล่มสลายของความเป็นมนุษย์ไปจนสิ้นแล้วหรือ/ต่างหาก
ยิ่งเมื่อได้ผ่านช่วงพ้นไวรัสล้างโลกมาหมาดๆ ความตายที่พร้อมจะกระชากเราทุกคนไปในทันทีที่เกิดหายใจอยู่ผิดที่ ภาพคนตายเป็นเบือ ทุกวันจะมีศพกองรอเผา ไม่แบ่งชายหญิง หรือ LBGTQ ไม่ว่าจะมั่งมีดีจน เศรษฐีหรือยาจก อุปาทานหมู่มากจากการถูกรังเกียจ กลัวตายจนกระทั่งระแวงและไม่ไว้ใจแม้แต่คนในครอบครัวเดียวกัน เหล่านี้ถูกหยิบยกจับประเด็นเอามาเล่นอยู่ในเรื่องตลอดเวลา
ครึ่งหลังของเรื่อง ทั้งวรุณและเมญาณีแทบจะไม่ได้พบกันเลย นอกจากในส่วนของห้วงคำนึงที่ต่างคิดถึงกัน เสมือนว่าคนทั้งคู่อยู่กันในโลกคู่ขนาน ผิดกับปันวรรษาที่ถึงแม้จะตายไปแล้ว แต่กลับเดินตามวรุณไปในทุกฝีก้าว โดยไม่ห่าง
เมขลา สาวพยาบาลที่ปรากฏตัวขึ้นก็มีอดีตอันโหดร้ายไม่ต่างจากวรุณในเวลานั้นเช่นกัน หล่อนโกรธเขาจากการที่ช่วยชีวิตหล่อนเอาไว้จากการพยายามจะกระโดดสะพานแม่น้ำฆ่าตัวตาย จากความแค้นมันกลายมาเป็นความรักในภายหลัง และหล่อนคนนี้นี่เองที่กลับมาเป็นผู้ช่วยสำคัญในการพยุงชีวิตและความฝันของวรุณ ให้ได้กลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง
การกอบกู้เศษซากของสิ่งซึ่งได้แตกสลายไปจนสิ้นแล้ว ก็เหมือนกับการพยายามต่อแพไม้ครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อที่จะหนีออกไปจากเกาะร้างที่ขังตัวเองอยู่นับสิบปี เหมือนฉากที่วรุณปลดปล่อยปันวรรษาไปจากเขา หลังจากพยายามกักขังหล่อนเอาไว้ด้วยความโศกเศร้าและเอาแต่ตำหนิโทษว่าเป็นความผิดตนมานานนับนาน เขาก้มลงพยายามจะแกะห่วงเชือกแห่งความรักที่ผูกขาเขาเอาไว้จนแน่น น้ำตาที่ไหลลงหยดบนผืนทราย และเสียงวิปโยคของพายุกลางทะเลในบ่ายวันนั้น ห่าฝนถล่มทะเลอันดามันอยู่หลายชั่ววัน ก่อนฟ้าหลังพายุจะเปิด และงานรวมตัวเลี้ยงรุ่นของกลุ่มเพื่อนที่กรุงเทพฯ จะเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ในปีที่ไม่มีแม้แต่ปันวรรษาและวรุณ ร้านเดิมย่านทองหล่อ โต๊ะตัวเดิม เก้าอี้สองตัวที่เว้นว่างไว้สำหรับเพื่อนทั้งสองคน ชายหญิงพวกนั้นสนุกปากที่ได้นินทาคนที่ไม่ได้มาร่วมงาน โดยเฉพาะเหตุวาทะครั้งสุดท้ายที่ทั้งคู่ได้ฝากวีรกรรมเอาไว้ในร้านแห่งนั้น
ผลงานอื่นๆ ของ 'ชัย ชัยมี ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ 'ชัย ชัยมี
ความคิดเห็น